วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตชาวนาแสนเหน็ดเหนื่อย

 ชีวิตชาวนา ที่ว่ากันว่า หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ต้องเหน็ดเหนื่อยลำบากเพียงไหน

        กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดต้องใช้เวลาเกือบปี ฉันคนหนึ่งเคยสัมผัสมาแล้วค่ะชีวิตทำนามันลำบากแสนเหนื่อยที่วลีว่ากันว่า  หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน  ชาวนาต้องเสี่ยงอะไรหลายๆอย่างไหนจะน้ำท่วมนาบ้าง
ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลแล้งบ้าง ขึ้นชื่อว่า ชาวนา ยังไงก็ต้องทำ



ช่วงแรกเลยจะมีการหว่านข้าวเพื่อเอาต้นกล้าค่ะ ไหนจะต้องซื้อปุ๋ยมาใส่นาเพื่อให้ข้าวงามปุ๋ยที่ได้มา
ต่างก็ไม่ใช่เงินสดกันทั้งนั้นค่ะ ธกส. บ้าง สหกรณ์บ้าง อะไรบ้าง ล้วนต้องใช้เงินทั้งนั้นเพื่อแลกกับข้าวงามที่เราจะได้มา


 พอต้นกล้าเริ่มได้ที่ก็จะนำไป ปักลงดินหรือเรียกอีกอย่างว่า ทำนา นั้นเองค่ะกว่าจะได้มาแต่ละต้นกล้านั้นต้องแลกหยาดเหนื่อยหลายๆหยด ก็ใช้มือเรานี้ล่ะค่ะถอนต้นกล้าแล้วก็รวบๆมัดทีละมัด ใช้มือละคะที่ถอนต้นกล้าเป็นไร่ๆ บ้านไหนมีตังค์ก็จ้างสบายไป บ้านไหนไม่มีตังค์จ้างก็ต้องอดทนต่อไปคะ


      ใช่ว่าข้าวนั้นจะงามดั่งใจปรารถนาค่ะไหนจะน้ำท่วมข้าวบ้างแล้งบ้างหัวใจชาวนาแทบสลายเพราะชีวิตทั้งชวิตก็รอทำนาเพื่อจะข้าวสวยๆ ดีๆ รวงใหญ่ๆหนักๆ แต่ก็ไม่เป็นดั่งฝันไว้ ต้องก้มทำนาตั้งแต่เช้าถึงเย็นคิดดูว่าเราต้องก้มหลังทั้งวันเลยนะคะ แดดร้อนๆถ้าดินมันร่วนก็ทำง่ายไปแต่ถ้าเป็นดินทรายหรือดินที่แน่ๆนั้นชาวนาต้องเจ็บนิ้วมือ นิ้วบวมบ้างเป็นแผลบ้าง เหงื่อต้องหยดแล้วหยดอีกก็ยังขึ้นฝั่งไม่ได้สะทีก้มหลังทั้งวันไม่พอเจอแดดร้อนๆเข้าไปทำให้ถึงต้องเป็นลมกันก็มี


ชีวิตชาวนานั้นต้องแลกด้วยหยาดเหนื่อยกว่าจะได้ข้าวมาให้กินกัน แต่ทำไม(คนบางกลุ่ม)ชอบดูถูกชาวนานักไม่เข้าใจ
ชอบดูถูกดูแคลน  เป็นชาวนาแล้วมันน่ารังเกียจตรงไหนมันผิดใช่ไหมที่ทำอาชีพอย่างนี้ซึ่งถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากลำบากกันหรอกจริงไหม
ช่วงเกี่ยวข้าวก็หนีไม่พ้นแดดร้อนๆ อีกตามเคยถ้าเจอกับฤดูหนาวก็แล้วไปแต่ถ้าเจอร้อนก็ร้อนจัดเลย
ต้องเดินบุกยุ้งข้าวเจอแดดร้อนๆใบข้าวบาดตามตัวก้อมี เฮ้อ...เหนื่อยจริง ๆๆๆๆ

ถ้าไม่มีชาวนาจะมีข้าวกินไหม !! ถามจริง ข้าวที่กินทุกเม็ดนั้นต้องแลกหยาดเหงื่อชาวนาที่บั่นทอนทั้งกายและใจ ต้องเจอกับอะไรต่อมิอะไร ที่ใครไม่เคยทำนาคงไม่รู้!!




ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

คุย กัน ผ่าน บล็อก ได้ ได้ นะ คะ ^_^


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น